ขั้นที่ 1 การเข้าใจปัญหา
ระบบสารสนเทศจะเกิดขึ้นได้อย่างมีประสิทธิภาพขึ้นกับผู้บริหารหรือผู้ใช้ระบบได้ทราบความต้องการที่ชัดเจนของตนเอง และต้องตอบให้ได้ว่าจะพัฒนาระบบหรือใช้วิธีการเดิมๆ ที่ปฏิบัติกันในปัจจุบัน ขั้นตอนนี้จำเป็นอย่างยิ่งที่ผู้บริหารต้องตัดสินใจอย่างแน่วแน่ว่าจะเลือกเดินไปในทิศทางใด
วัตถุประสงค์
1. เข้าใจว่าระบบเดิมที่มีอยู่ในปัจจุบันมีปัญหา
2. มองเห็นปัญหาที่เกิด
บุคลากร
1. ผู้ใช้ระบบ จะทราบถึงปัญหาในการทำงาน
2. ผู้บริหาร ต้องรับรู้ว่าระบบเกิดปัญหาและตัดสินใจแก้ไข
สิ่งที่ควรจะได้
1. การตัดสินใจจากผู้บริหารว่าควรจะพัฒนาระบบสารสนเทศหรือไม่
2. เอกสารรวบรวมปัญหาและอุปสรรคในการปฏิบัติงานในระบบนั้นๆ
ขั้นตอนที่ 2 ศึกษาความเป็นไปได้ (Feasibility Anatysts)
ผู้บริหารและนักวิเคราะห์ระบบจะเข้ามีบทบาทในการมองหาแนวทาง การกำหนดว่าปัญหาคืออะไร และตัดสินใจว่าการพัฒนาระบบสารสนเทศมีความเป็นไปได้หรือไม่ โดยเสียค่าใช้จ่าย และใช้เวลาในการพัฒนาน้อยที่สุด แบ่งออกเป็น 2 ประเภทคือ
1. ความเป็นไปได้ทางด้านเทคนิค
2. ความเป็นไปได้ทางด้านบุคลากร
วัตถุประสงค์
สามารถที่จะนำปัญหาที่ได้จากขั้นตอนแรก มาทำการวิเคราะห์ความเป็นไปได้ที่จะแก้ไขปัญหา
บุคลากร
1. นักวิเคราะห์ระบบ
2. ผู้บริหาร
สิ่งที่ควรจะได้
รายงานสรุปข้อมูลปัญหาจากระบบงานเดิม ความต้องการของระบบใหม่ แนวทางในการแก้ปัญหาเพื่อทำเป็นรายงานสรุปแนะนำไปเสนอแก่ผู้บริหาร
ขั้นตอนที่ 3 วิเคราะห์ระบบ (System Anatysts)
ทราบวิธีการทำงานของระบบเดิมอย่างชัดเจนถ่องแท้แล้ว จึงจะทำการกำหนดความต้องที่ผู้ใช้ต้องการจากระใหม่ วิธีใช้ในการสำรวจนักวิเคราะห์ระบบต้องใช้เทคนิคการเก็บข้อมูลมี 3 ประการดังนี้
1. การศึกษาจากเอกสาร
2. การสังเกตวิธีการทำงานในปัจจุบัน
3. การสัมภาษณ์
วัตถุประสงค์
สามารถนำปัญหาที่ได้จากขั้นตอนแรก มาทำการวิเคราะห์ความเป็นไปได้ที่จะแก้ปัญหา
บุคลากร
1. ขั้นตอนการทำงานาของระบบเดิม
2. กำหนดความต้องการในระบบใหม่
3. สร้างแบบจำลองระบบใหม่
สิ่งที่ควรจะได้
1. รายงานสรุปข้อมูลขั้นตอนการทำงานของระบบงานเดิม
2. รายงานสรุปข้อมูลขั้นตอนการทำงานของระบบงานใหม่
3. แบบจำลองระบบงานใหม่
ขั้นตอนที่ 4 ออกแบบ (Design)
การออกแบบระบบงานมีหน้าที่สำคัญคือนำเอาความต้องการที่เก็บรวบรวมได้ในขั้นตอนการวิเคราะห์ระบบมาทำการออกแบบให้เป็นระบบงานใหม่ รวมทั้งการออกแบบ Software และ Hardware ที่ต้องใช้ และอาจรวมไปถึงการวางแผนระบบเครือข่ายอีกด้วย
หลักการเบื้องต้นในการออกแบบเริ่มจากการแบ่งงานเป็นส่วนๆ โดยใช้ระบบงานทั่วๆ ไปแบ่งได้ 4 ประเภท ได้แก่
1. การนำข้อมูลเข้า
2. การประมวลผล
3. การนำข้อมูลออก
4. การเก็บข้อมูล
วัตถุประสงค์
ออกแบบระบบงานใหม่ ให้สามารถทำงานได้สอดคล้องกับความต้องการของผู้ใช้และฝ่ายบริหาร
บุคลากร
1. นักวิเคราะห์ระบบ
2. ผู้เชี่ยวชาญในด้าน ระบบเครือข่าย ฐานข้อมูล ความปลอดภัย
สิ่งที่ควรจะได้
1. Flowchart แผนผังของกระบวนการทำงาน
2. แผนผังการออกแบบระบบ
ขั้นตอนที่ 5 ลงมือสร้างและทดสอบ (Construction and Testing)
โปรแกรมเมอร์จะเข้ามามีบทบาทมากที่สุด โดยจะทำการพัฒนาโปรแกรมโดยดูจากเอกสารต่างๆ ที่ได้จากขั้นตอนที่แล้วเป็นหลัก มีการตรวจสอบความถูกต้อง โดยผู้ตรวจสอบ เพื่อให้มีการตรวจสอบจากบุคคลที่ไม่ใช่ผู้สร้างโปรแกรม ซึ่งอาจจะเกิดความผิดพลาดขึ้นได้ และไม่ให้เป็นอันตรายต่อองค์กร
ขั้นตอนนี้สิ่งที่ต้องได้ออกมานอกจากตัวโปรแกรมแล้วคือคู่มือการใช้ แบ่ง 2 ประเภทคือ
1. คู่มือการใช้งาน (User Manual)
2. คู่มือการติดตั้งการตั้งค่าต่างๆ (System Manual)
วัตถุประสงค์
สร้างโปรแกรมซึ่งสามารถทำงานได้ถูกต้องและตรงกับความต้องการ
บุคลากร
1. โปรแกรมเมอร์
2. ผู้ตรวจสอบโปรแกรม
สิ่งที่ควรจะได้
1. โปรแกรม
2. คู่มือการใช้งานประกอบด้วย User Manual และ System Manual
ขั้นตอนที่ 6 การติดตั้ง (Implement)
การนำระบบงานใหม่ไปใช้ต้องทำภายใต้การดูแลของนักพัฒนาระบบ ผู้เชี่ยวชาญในด้านที่เกี่ยวข้อง ยังต้องอาศัย Vendor ต่างๆด้วย ในกรณีมีระบบเดิมทำงานอยู่ก่อนแล้ว ไม่ควรนำระบบใหม่ไปใช้ทดแทนทั้งระบบทันที แต่ให้ใช้คู่ขนานกันไปสักระยะก่อนจึงค่อยถอดระบบงานเก่าทิ้ง
วัตถุประสงค์
นำระบบงานใหม่ไปใช้จริง
บุคลากร
1. นักวิเคราะห์ระบบ
2. ผู้เชี่ยวชาญด้านที่เกี่ยวข้อง คือระบบเครือข่าย ฐานข้อมูล
3. Vendor ต่างๆ
สิ่งที่ควรจะได้
ระบบงานใหม่
ขั้นตอนที่ 7 การบำรุงรักษา (Maintenance)
เป็นขั้นตอนของการปรับเปลี่ยนและแก้ไข ระบบงานหลังจากทำงานไปแล้ว ในบางครั้งเราอาจพบว่าระบบงานใหม่มีปัญหา ซึ่งโดยส่วนใหญ่แล้วมักจะมาจากการเปลี่ยนแปลงความต้องของระบบ ผู้ใช้อาจจะมีความต้องการใหม่ๆ
วัตถุประสงค์
เพื่อให้ระบบงานสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
บุคลากร
1. ผู้ใช้งาน
2. นักวิเคราะห์ระบบ
3. โปรแกรมเมอร์
4. ผู้ตรวจสอบ
สิงที่ควรจะได้
นโยบายในการดูแลรักษาระบบ

http://nipa-ying.blogspot.com/2008/04/7.html
อ้างอิงรูปภาพ
http://coursewares.mju.ac.th:81/e-learning48/bt321/Image/PicChapter/3-1.jpg
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น